วันพุธ, ธันวาคม 13, 2549

Tomorrow never comes

ช่วงนี้ห่างหายจากการอัพบล็อกไปพักนึง ด้วยเพราะตัวเองไม่มีอะไรมากกว่างาน งาน แล้วก็งาน วันหยุดยาวๆ ก็ไม่ได้ไปไหน นอกจากพักผ่อนอยู่กับห้อง

อ้อ มีเจ็บป่วยเป็นไข้ด้วยอีกอย่างนึง ช่วงเดือนนี้ผมป่วยง่ายครับ เพราะเป็นคนที่ไวกับอากาศที่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะที่เปลี่ยนกันแบบ เช้า สาย บ่าย เย็น นี่ มันพาลทำผมออกอาการแย่เอาง่ายๆ นอกจากอาการป่วยของตัวเอง วันก่อนอดีตรูมเมทเพิ่งส่งข่าวเกี่ยวกับเพื่อนเล่นเกม ที่ตอนนี้กลับบ้านไปใช้ทุนหลวง ตามระเบียบราชการในฐานะเภสัชกรประจำอนามัยต่างจังหวัด ข่าวล่าสุดก็คือ เพื่อนผมคนนั้นกำลังป่วยครับ นอกจากโรคกระเพาะ โรคไต หมอกำลังตรวจหาเซลมะเร็งอยู่ เจ้าตัวเลยโทรมาร่ำลาเพื่อนฝูงที่ติดต่อได้ อารมณ์ว่าทำใจไว้แล้วว่าอยู่ไม่ยืดแน่ๆ

พอได้ยินเรื่องเพื่อนคนนั้น ผมก็ต้องกลับมาคิดถึงตัวเอง พร้อมกับนึกถึงคำพูดของด็อกเตอร์วรฑา ที่เสียชีวิตจากโรคมะเร็งไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา หลังจากสู้กับโรคมะเร็งอยู่สองปีกว่า

ด็อกเตอร์วรฑา เตือนเรื่องการชีวิตไว้ว่า ขอให้ทุกคนระวังตัวกันไว้หน่อย อย่าใช้ชีวิตให้มันเปลืองมาก อย่าคิดเรื่องคุ้มไม่คุ้ม เพราะเวลาเราจะตายจริงๆ รับรองว่าไม่มีใครคิดว่าตัวเองใช้ชีวิตคุ้มค่าแล้วหรอก


ทุกคนกลัวตายทั้งนั้น เฮือกสุดท้ายทุกคนก็หวังว่าจะมีเฮือกต่อไปอยู่เรื่อยๆ


เมื่อวานผมเพิ่งโทรหาน้องคนนึงที่ให้ผมช่วยติวหนังสือให้ ใจผมไม่รู้ว่าจะมีปัญหาอะไรไหมถ้าเจอหน้าเธอนานๆ อีกครั้ง แต่มันคงเลี่ยงไม่ได้เพราะเป็นคนไปสัญญากับเธอเองว่าอะไรช่วยได้ก็จะช่วย

ในใจตัวเองรู้สึกอะไรอยู่ ก็คงต้องปล่อยให้ใจมันจัดการตัวเองไปแล้วกัน

หน้าที่ของตัวเองก็ทำให้มันเรียบร้อย คงต้องแบ่งตัวกับใจแยกให้ออกเสียแล้วสิ

ไม่รู้จะทำได้ไหม แต่จะพยายาม

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ตอนนี้คิดอย่างเดียวว่า

ถ้าสักวันตาย จะตายแบบวูบๆ ไม่ต้องทรมาน

ไม่ต้องเจ็บป่วยออดๆแอดๆ ...

ที่สำคัญไม่อยากให้พ่อแม่มาดูแลเราเมื่อยามเจ็บป่วย

ไม่ใช่หยิ่งอะไรนะ แต่ไม่อยากให้เค้ามาลำบากกับชีวิตของเราแค่นั้นเอง