ช่วงนี้มีอาการป่วยงอมแงมนิดหน่อยครับ เป็นไข้อากาศเปลี่ยนหรือว่าเป็นไข้อื่นไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆ ตัวร้อน หัวหมุนๆ เบลอๆ มาสองสามวันแล้ว และคาดว่าน่าจะเป็นต่อไปอีกสักพัก
---------------------------------------------------
วันก่อนดูหนังช่อง Star Movie เรื่อง Shadow Dancer หนังเน่าได้จิตมาก ที่ทนดูได้เพราะมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับนักเขียนนี่แหละ พระเอกเป็นนักเขียนหน้าใหม่ที่ได้รับมอบหมายให้ไปตามเอาต้นฉบับใหม่จากนักเขียนนามอุโฆษที่หยุดเขียนงานไปนานกว่ายี่สิบปี ปัญหาที่พระเอกของเราเจอคือ การไม่มีแรงบันดาลใจที่จะเขียนงาน เป็นปัญหาหลักของนักเขียนฉบับเริ่มต้นที่ไม่รู้ว่าจะหยิบอะไรมาเขียนแล้วงานออกมาโดดเด้ง เป็นที่น่าสนใจของคนอ่าน ส่วนนักเขียนใหญ่เจอปัญหาตรงกันข้ามครับ ที่หยุดเขียนไปยี่สิบกว่าปีไม่ใช่เพราะไม่มีอะไรจะเขียน แต่เขียนไม่ได้เพราะแรงบันดาลใจหลักคือภรรยาสุดสวาท ขาดใจดิ้น ดันมาสิ้นลมจากไปแบบปัจจุบันทันด่วน ทิ้งลูกสาวสวยๆ สามคนไว้ให้พ่อเลี้ยง (และรอพระเอกมาหม้อ) การเล่าเรื่องของผู้กำกับถือว่าโอเคนะครับ พยายามใช้วิธีแบบ Absurd และ Surreal มาเล่นกับจินตนาการของพระเอกระหว่างที่ใช้ชีวิตอยู่กับคนในเมืองเล็กๆ ของอิตาลี แต่ที่น่าเขกมะเหงกลงกระบาลคือตอนจบมันช่างน้ำเน่าแบบ "แล้วสองเราก็ครองรักชั่วนิรันดร์" อะไรทำนองนั้น เรียกว่าเนื้อเรื่องและปมที่ปูมาทั้งเรื่องเล่นมาทิ้งเอาตอนจบเนี่ยหล่ะ สรุปคือ มันจะทำหนังมาตั้งยาวทำไมกัน เล่นมาทำตอนจบแบบนั้นเนี่ย เหอ...
---------------------------------------------------
จะว่าไปไอ้อาการเขียนอะไรออก (แบบเอาไปหาเงินกับชาวบ้านได้) ผมจบลงตั้งแต่ตอนมีเรื่องกับไอ้ฝรั่งที่ถนนวิทยุแล้วหละครับ เพราะพอมาทำงานประจำ ภารกิจที่ทำบวกกับการงานแทบไม่เหลือเวลาและรายรับพอไปหาเวลาทอดหุ่ยหาแรงบันดาลใจมาเขียนงานเอาซะเลย
บางทีผมเองอาจจะพลาดในแง่ไม่เคยเรียกร้องอะไรเพื่อตัวเองนักก็ได้ ชีวิตเลยอลหม่านแบบทุกวันนี้ เอาว่าเดี๋ยวคงได้เวลาขยับทำอะไรบ้าง ก่อนจะรากงอก แต่ใจเฉาอยู่ในออฟฟิสไปเงียบๆ
ว่าแล้วยังไม่ได้ซื้อหนังสือใหม่เลยแฮะ งานเทศกาลหนังสือก็ใกล้จบแล้วด้วย ต้องไปหามาซักเล่มดีกว่า แต่ก่อนอื่น... ขอเวลารักษาตัวก่อนนะครับ
วันพุธ, ตุลาคม 25, 2549
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น